Model S Long Range รถยนต์ซีดานไฟฟ้ายี่ห้อสุดหรูหราของ Tesla ได้มีการปรับเปลี่ยนของการขึ้นราคาเพียงเล็กน้อยเป็นจำนวน 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 165,750 บาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Tesla เพิ่งจะปรับขึ้นราคาModel S Plaid ก่อนส่งมอบให้ลูกค้าเพิ่มอีก 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 311,500 บาท เป็น 129,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4 ล้านบาท ซึ่งการปรับขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้าในระยะหลังนี้ก็เป็นเพราะปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นั่นเอง
Model S Long Rangeปรับขึ้นราคาเป็น 89,990 เหรียญสหรัฐฯ

เรียกได้ว่ามีการขึ้นจำนวนราคานี้บ่อยจริง ๆ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla เพราะเพิ่งประกาศขึ้นราคารถยนต์ซีดานไฟฟ้าสุดหรูรุ่นModel S Long Range เพิ่มอีก 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 165,750 บาท จากราคาเดิมที่ 84,990 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.8 ล้านบาท เป็น 89,990 เหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 2.9 ล้านบาท แถมลูกค้าที่สั่งซื้อรถยนต์ในสหรัฐฯ ยังต้องชำระค่าจัดส่งเพิ่มอีก 1,200 เหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 40,000 บาท รวมแล้วลูกค้าที่สั่งซื้อรถรุ่นนี้จะต้องจ่ายเงินรวมทั้งสิ้นถึง 91,190 เหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 3 ล้านบาทเลยทีเดียว เช่นเดียวกับรถรุ่นModel X ที่ปรับราคาขึ้นอีก 5,000 เหรียญสหรัฐฯ เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Tesla มีการปรับขึ้นราคารถยนต์ของตัวเอง เพราะเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทก็เคยปรับขึ้นจำนวนของราคารถรุ่น Model S Plaid เป็น 129,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 311,500 บาทเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นผลมาจากการยกเลิกแผนการผลิตรถยนต์สุดหรูตัวท็อปอย่าง Tesla Model S Plaid Plus แล้วขยับ Model S Plaid ขึ้นมาเป็นรถตัวท็อปของบริษัทแทนนั่นเอง

ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการปรับจำนวนขึ้นราคา Model S Long Range ในครั้งนี้ แต่เป็นที่เชื่อกันว่า Tesla กำลังเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลด้านต้นทุนการผลิต เนื่องจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังได้รับผลอย่างหนักจากการขาดแคลนวัตถุดิบอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
ข่าววันใหม่ อัพเดทก่อนใคร ข่าวเด่น ข่าวดัง ข่าวเด็ดประเด่นร้อน นำมาให้ให้คุณได้ติดตามก่อนใครต้องที่นี้